⚙️ ISO 9001:2015 Certified ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการและ ควบคุมมลพิษทางเสียง
⚙️ ISO 9001:2015 Certified ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการและ ควบคุมมลพิษทางเสียง

เสียงคืออะไรและทำงานอย่างไร?

เสียงคืออะไร ทำงานอย่างไร แผ่นกันเสียง ฉนวนกันเสียง ผนังกันเสียง cover
เสียงคือ พลังงานรูปแบบหนึ่ง ที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ แล้วส่งผ่านมาสู่หูเราในรูปของ คลื่นกล (Mechanical Wave) โดยต้องอาศัยตัวกลาง เช่น อากาศ น้ำ หรือของแข็ง ในการเคลื่อนที่

หลักการทำงานของเสียง:

  1. การเกิดเสียง: เมื่อวัตถุสั่น (เช่น สายกีตาร์หรือลำโพง) จะทำให้โมเลกุลของอากาศรอบๆ ถูกดันและอัดตัว เกิดเป็นคลื่น
  2. การเดินทาง: คลื่นเสียงเคลื่อนที่โดยการ บีบอัดและขยายตัว ของโมเลกุลอากาศต่อกันเป็นทอดๆ (คล้ายโดมิโนล้มต่อกัน)
  3. การรับเสียง: เมื่อคลื่นเสียงมาถึงหู โมเลกุลอากาศจะกระทบแก้วหู ทำให้สั่น แล้วสมองแปลเป็นเสียงที่เราได้ยิน

สิ่งน่าสนใจเกี่ยวกับเสียง:

  • เสียงเดินทางใน อากาศ ช้ากว่าใน น้ำหรือเหล็ก (ความเร็วเสียงในอากาศประมาณ 343 m/s ที่อุณหภูมิ 20°C)
  • ในอวกาศที่ไม่มีอากาศ เสียงเดินทางไม่ได้ เพราะขาดตัวกลาง
  • เสียงสูง-ต่ำ ขึ้นกับ ความถี่ (Hz) ส่วนเสียงดัง-เบาขึ้นอยู่กับ พลังงานคลื่น

ความเข้าใจกลไกเสียงช่วยในการออกแบบอุปกรณ์ควบคุมเสียง เช่น ฉนวนกันเสียง หรือระบบเสียงในห้องบันทึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รายละเอียดเชิงลึก

1. นิยามเสียงทางฟิสิกส์:

เสียงเป็น คลื่นกลตามยาว (Longitudinal Mechanical Wave) ที่ต้องอาศัยตัวกลางในการเคลื่อนที่ โดยเกิดจากการรบกวนของอนุภาคในตัวกลางนั้นๆ

2. กลไกการเกิดและการรับเสียงแบบละเอียด:

  • แหล่งกำเนิดเสียง: ทุกการสั่นสะเทือน (Vibration) ที่มีความถี่ 20-20,000 Hz
    ตัวอย่าง:

    • เสียงมนุษย์เกิดจากสายเสียงสั่น
    • เสียงเครื่องจักรเกิดจากการชนกันของชิ้นส่วน
  • ตัวกลางสำคัญ:
    ตัวกลาง ความเร็วเสียง (m/s)
    อากาศ (20°C) 343
    น้ำ 1,480
    เหล็ก 5,120
  • การรับรู้เสียง:
    1. คลื่นเสียงเข้าไปในช่องหู → กระทบแก้วหู
    2. กระดูกหู (ทั่ง, ค้อน, โกลน) ขยายสัญญาณ
    3. ขนเซลล์ในโคเคลียแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า
    4. สมองประมวลผลเป็นเสียง

3. พารามิเตอร์หลักของเสียง:

  • ความถี่ (Frequency): จำนวนการสั่นต่อวินาที (Hz)
    • <20 Hz = อินฟราซาวด์ (Infrasound)
    • 20-20,000 Hz = ช่วงได้ยินของมนุษย์
    • 20,000 Hz = อัลตราซาวด์ (Ultrasound)

  • ความดันเสียง (Sound Pressure): วัดเป็นเดซิเบล (dB)
    ตัวอย่างระดับเสียง:

    • 30 dB: เสียงกระซิบ
    • 85 dB: เสียงจราจรคับคั่ง
    • 120 dB: เสียงเครื่องบินบินขึ้น

4. การประยุกต์ใช้ความรู้เรื่องเสียง:

  • การควบคุมเสียง:
    • Sound Absorber: ดูดกลืนพลังงานเสียง (ใช้โพรงอากาศ/เส้นใย)
    • Noise Barrier: กั้นทางเดินเสียง (ใช้มวลสูงเช่นคอนกรีต)
  • เทคโนโลยีสมัยใหม่:
    • Active Noise Cancellation: สร้างคลื่นตรงข้ามเพื่อหักล้าง
    • Acoustic Camera: ตรวจจับแหล่งเสียงในอุตสาหกรรม

5. ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ:

  • เอฟเฟกต์ดอปเปลอร์: การเปลี่ยนความถี่เมื่อแหล่งเสียงเคลื่อนที่ (เช่น เสียงรถพยาบาล)
  • โซนิคบูม: คลื่นกระแทกเมื่อวัตถุเคลื่อนที่เร็วกว่าเสียง (Mach 1)
  • เสียงในสุญญากาศ: แสงเดินทางได้แต่เสียงเดินทางไม่ได้

การเข้าใจกลไกเสียงช่วยในการ:

✓ ออกแบบสภาพแวดล้อมการทำงานไร้เสียงรบกวน
✓ พัฒนาระบบสื่อสารและบันทึกเสียง
✓ ป้องกันความเสียหายจากคลื่นเสียงความถี่สูงในอุตสาหกรรม

ข้อมูลเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับวิศวกรเสียง (Acoustic Engineer) และผู้สนใจด้านเทคโนโลยีการควบคุมเสียงสมัยใหม่

NTi เพราะเราเข้าใจ เสียงรบกวน ยินดีให้บริการ

ติดตั้ง แผ่นกันเสียง , ฉนวนกันเสียง , ผนังกันเสียง

บริการออกแบบ
และติดตั้งระบบกันเสียง

ติดตั้งในบ้าน สำนักงาน สตูดิโอ ห้องประชุม คอนโด ฯลฯ

ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ
ปัญหาเสียงรบกวน

เลือกแผ่นกันเสียงที่เหมาะสมกับพื้นที่ ประเมินหน้างาน

วิเคราะห์เสียงและแก้ไข
ปัญหาเสียงรบกวน

ตรวจสอบและวิเคราะห์ระดับเสียงในพื้นที่ และมาตรการป้องกันเสียงรบกวน

บริการสั่งทำพิเศษเฉพาะ​
แผ่นกันเสียง

ผลิตแผ่นกันเสียงตามขนาดให้เหมาะกับอุตสาหกรรมเฉพาะทาง

บริการหลังการขาย
ซ่อมบำรุงแผ่นกันเสียง

การรับประกันสินค้าและการเคลมสินค้า บำรุงรักษาหรือซ่อมแซมผนังกันเสียง

ติดต่อเรา