คุณสมบัติของม่านกันเสียง
✅ ช่วยลดระดับเสียงรบกวน – ลดเสียงรบกวนได้ดี โดยเฉพาะเสียงในย่านความถี่สูง (2000 Hz ขึ้นไป)
✅ รูดเปิดหรือปิดได้สะดวก – เหมาะสำหรับใช้กั้นพื้นที่ ระหว่างแหล่งกำเนิดเสียงและจุดที่ต้องการความเงียบ
✅ วัสดุไม่ลามไฟ – ปลอดภัยจากอัคคีภัย ไม่ต้องกังวลเมื่อเกิดเพลิงไหม้ เพราะผลิตจากวัสดุไม่ลามไฟ
✅ ประยุกต์ใช้งานได้ – นำมาติดตั้งเพื่อกันเสียงรบกวนได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร
✅ เลือกขนาดได้ตามต้องการ – สั่งผลิตได้ตามขนาดที่ต้องการและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในพื้นที่
การใช้งานของม่านกันเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
📌 กั้นพื้นที่เครื่องจักร – ลดเสียงจากเครื่องจักรที่รบกวนพนักงานหรือผู้ใช้พื้นที่
📌 แบ่งโซนการผลิต – แยกพื้นที่ที่มีเสียงดังออกจากพื้นที่ทำงานเงียบ เช่น พื้นที่สำนักงานภายในโรงงาน
📌 ลดเสียงจากแหล่งกำเนิดที่ต้องระบายความร้อน – ใช้ปิดกั้นเสียงทั้งสี่ด้าน โดยให้ความร้อนผ่านด้านบน
📌 ใช้ในพื้นที่ก่อสร้างภายในโรงงาน – ลดเสียงจากงานก่อสร้างหรือซ่อมบำรุง
📌 ป้องกันเสียงจากภายนอก – ใช้ในโรงงานที่ต้องการลดเสียงจากถนนหรือสภาพแวดล้อมรอบข้าง
ประเภทของม่านกันเสียง
1. ม่านกันเสียงใช้งานในอาคาร (Indoor Acoustic Curtain)
- สำหรับกั้นพื้นที่แยกแหล่งกำเนิดเสียงออกจากผู้รับเสียงในอาคาร
- ไม่กันน้ำ แต่ราคาประหยัดกว่า น้ำหนักเบากว่าแบบใช้งานนอกอาคาร
2. ม่านกันเสียงใช้งานนอกอาคาร (Outdoor Acoustic Curtain)
- สำหรับใช้งานกลางแจ้ง ที่ต้องโดนแดด โดนฝน หรือมีการใช้น้ำล้างทำความสะอาด
- ทนแสงยูวี ทนการกัดกร่อนของสารเคมี ผลิตจากวัสดุไม่ลามไฟ มีน้ำหนักมาก
ข้อดีของม่านกันเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
✔️ ลดเสียงรบกวนได้ 3-12 dBA ขึ้นอยู่กับกำลังเสียง (SWL) และความถี่เสียง (Frequency)
✔️ ติดตั้งง่ายและเคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความยืดหยุ่น
✔️ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน ลดผลกระทบของเสียงต่อพนักงาน
✔️ ปรับแต่งได้ตามต้องการ มีขนาดและคุณสมบัติให้เลือกหลากหลาย
สรุป
ม่านกันเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม แม้จะลดเสียงได้น้อยกว่าห้องกันเสียงหรือตู้ครอบลดเสียง แต่มีความสะดวกในการนำมาประยุกต์ใช้ในการลดเสียงที่เกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะงานลดเสียงที่ไม่ต้องการแก้ไขด้วยการปิดทึบแบบถาวร