ผนังกันเสียงอุตสาหกรรมรุ่น Nisoline NB510
ปัญหาเสียงรบกวนในโรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบกิจการ หรือพื้นที่ที่มีกิจกรรมก่อเกิดเสียงดังเกินมาตรฐาน เป็นหนึ่งในมลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรอบอย่างมีนัยสำคัญ การควบคุมเสียงจึงเป็นสิ่งจำเป็นตามหลักวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ไม่สามารถลดเสียงที่ต้นกำเนิดได้ การลดเสียงในเส้นทางการเคลื่อนที่ของเสียง (Path Reduction) จึงเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยม หนึ่งในวิธีการควบคุมเสียงในเส้นทางการแพร่กระจาย คือ การติดตั้ง ผนังกันเสียง (Noise Barrier) ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยป้องกันไม่ให้เสียงเดินทางไปยังพื้นที่ที่ต้องการควบคุม โดยในปัจจุบันมีผนังกันเสียงหลายรุ่นในท้องตลาด แต่ Nisoline NB510 เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบเฉพาะสำหรับใช้งานเกรดอุตสาหกรรม
• คุณสมบัติของผนังกันเสียง Nisoline NB510
Nisoline NB510 คือผนังกันเสียงแบบสำเร็จรูป ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อใช้ในการลดเสียงในช่วงความถี่สูง (High-frequency Noise) โดยเฉพาะความถี่ตั้งแต่ 2,000 Hz ขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงความถี่ที่พบได้บ่อยจากเสียงเครื่องจักร เครื่องยนต์พัดลมแรงสูง หรือระบบระบายอากาศอุตสาหกรรม ประกอบด้วยโครงสร้างวัสดุหลายชั้น (Multi-layer Panel) ซึ่งประกอบด้วยแผ่นวัสดุที่มีคุณสมบัติในการดูดกลืนเสียง (Sound Absorption) และวัสดุที่มีคุณสมบัติในการป้องกันการทะลุผ่านของเสียง (Sound Insulation) จึงสามารถให้ค่าการกันเสียง (Sound Transmission Class: STC) ไม่น้อยกว่า 30 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานเชิงวิศวกรรม
• การประยุกต์ใช้งานผนังกันเสียงอุตสาหกรรม
ผนังกันเสียงรุ่น Nisoline NB510 สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งภายในอาคาร (Indoor Application) หรือภายนอกอาคาร (Outdoor Application) เนื่องจากวัสดุได้รับการออกแบบให้มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น ความชื้น ฝุ่นละออง และแสงแดด
• ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานแก้ปัญหาเสียงรบกวน:
- ติดตั้งเป็นผนังกันเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม (Industrial Noise Barrier) เพื่อแยกพื้นที่ที่มีเครื่องจักรเสียงดังออกจากพื้นที่สำนักงานหรือพื้นที่ปฏิบัติงานของพนักงาน
- ดัดแปลงเป็นห้องเก็บเสียง (Soundproof Room) สำหรับการทดลองเครื่องจักร การทดสอบเสียง หรือการตรวจสอบคุณภาพเสียงในสายการผลิต
- สร้างเป็นตู้ครอบเครื่องจักร (Acoustic Enclosure) ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เสียงกระจายไปยังพื้นที่โดยรอบ
- ใช้ในสถานที่ก่อสร้างชั่วคราว (Temporary Barrier) เพื่อควบคุมเสียงไม่ให้รบกวนชุมชน เช่น ติดตั้งรอบโครงการก่อสร้าง
• ประสิทธิภาพในการลดเสียง
แม้ว่าการลดเสียงที่ต้นกำเนิด (Source Reduction) จะเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดตามหลักวิศวกรรมเสียง แต่ในหลายกรณี เช่น เครื่องจักรที่ไม่สามารถครอบคลุมได้หมด หรือพื้นที่ที่อยู่ใกล้ชุมชน การใช้ผนังกันเสียงซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ทางผ่านเสียง (Path Reduction) กลับกลายเป็นวิธีที่มีความคุ้มค่าและสามารถแก้ปัญหาได้จริง โดยผนังกันเสียงอุตสาหกรรมรุ่น Nisoline NB510 สามารถลดระดับความดันเสียงได้เฉลี่ย 6-30 dBA ขึ้นอยู่กับความถี่ของเสียงและสภาพแวดล้อมหน้างาน ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ช่วยลดโอกาสเกิดการร้องเรียนจากประชาชน และช่วยให้ระดับเสียงโดยรวมของสถานประกอบการอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
ผนังกันเสียงอุตสาหกรรม Nisoline NB510 จึงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในเชิงวิศวกรรมสำหรับการควบคุมเสียงรบกวน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่มีเสียงในย่านความถี่สูง ด้วยคุณสมบัติด้านการดูดซับและป้องกันเสียงในระดับ STC 30 ขึ้นไป ติดตั้งสะดวก ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับทั้งการติดตั้งถาวรและใช้งานชั่วคราว ซึ่งการเลือกใช้ผนังกันเสียงอย่างเหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้สถานประกอบการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่เศรษฐศาสตร์ และภาพลักษณ์องค์กรในระยะยาว