1. สาเหตุของเสียงดังในโรงงาน
🔸 เครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิต – เช่น เครื่องปั๊มโลหะ, เครื่องตัด, เครื่องบด, มอเตอร์ไฟฟ้า
🔸 กระบวนการผลิตที่เกิดแรงกระแทก – การเชื่อม, การขัด, การเจาะ
🔸 ระบบระบายอากาศและเครื่องอัดอากาศ – คอมเพรสเซอร์, พัดลมดูดอากาศ
🔸 เสียงสะท้อนจากโครงสร้างโรงงาน – ผนังโลหะ, พื้นคอนกรีตที่ไม่มีวัสดุซับเสียง
🔸 การขนย้ายวัสดุและการขนส่ง – รถยกสินค้า (Forklift), สายพานลำเลียง
2. มาตรฐานระดับเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
🔸 กฎหมายกำหนดให้ระดับเสียงเฉลี่ย (LAeq) ต้องไม่เกิน 85 dB(A) สำหรับการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน
🔸 หากเสียงดังเกิน 90 dB(A) ต้องจัดให้มีมาตรการควบคุมเสียง เช่น ฉนวนกันเสียง, ที่ครอบหู หรือปรับปรุงกระบวนการผลิต
🔸 ระดับเสียงที่เกิน 100 dB(A) อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อการได้ยินอย่างรุนแรงหากสัมผัสเป็นเวลานาน
📌 ค่ามาตรฐานเสียงตามกฎหมายในไทย (ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม และกฎหมายแรงงาน)
ระดับเสียง (dB) |
ระยะเวลาสัมผัสสูงสุด (ชั่วโมง/วัน) |
---|---|
85 dB |
8 ชั่วโมง |
90 dB |
4 ชั่วโมง |
95 dB |
2 ชั่วโมง |
100 dB |
1 ชั่วโมง |
105 dB |
30 นาที |
110 dB |
15 นาที |
115 dB ขึ้นไป |
อันตรายทันที ต้องหลีกเลี่ยง |
3. ผลกระทบของเสียงดังเกินมาตรฐาน
🔸 ผลกระทบต่อสุขภาพพนักงาน
✅ การสูญเสียการได้ยินแบบถาวร (Noise-Induced Hearing Loss – NIHL)
✅ ปวดศีรษะ, เวียนศีรษะ, หูอื้อ
✅ ความเครียดและอ่อนเพลียจากเสียงดังต่อเนื่อง
🔸 ผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน
✅ การสื่อสารผิดพลาด → อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ
✅ สมาธิลดลง → ส่งผลต่อคุณภาพงาน
✅ ความพึงพอใจของพนักงานลดลง → ทำให้เกิดปัญหาด้านแรงงาน
🔸 ผลกระทบด้านกฎหมายและความปลอดภัย
✅ อาจถูกหน่วยงานรัฐตรวจสอบและสั่งปรับปรุง
✅ เพิ่มต้นทุนค่ารักษาพยาบาลและการชดเชยพนักงาน
4. วิธีควบคุมและลดเสียงดังในโรงงาน
✅ 1. ควบคุมที่แหล่งกำเนิดเสียง
•ติดตั้ง แผ่นซับเสียง รอบเครื่องจักรที่มีเสียงดัง
•ใช้ ฉนวนกันเสียง เช่น ใยแก้ว (Fiberglass), ใยหิน (Rockwool), โฟมอะคูสติก
•บำรุงรักษาเครื่องจักรให้ทำงานเงียบขึ้น เช่น หยอดน้ำมัน ลดการสั่นสะเทือน
✅ 2. ควบคุมที่ทางเดินเสียง
•ติดตั้ง ฉากกั้นเสียง (Sound Barriers) ระหว่างพื้นที่ทำงาน
•ปิดรอยรั่วเสียง เช่น บริเวณหน้าต่าง ประตู ผนัง
•ใช้พื้นยางหรือพรมซับเสียงในบริเวณที่เสียงสะท้อนมาก
✅ 3. ควบคุมที่ผู้รับเสียง
• ให้พนักงานใช้ ที่ครอบหูป้องกันเสียง (Ear Muffs) หรือ ที่อุดหู (Ear Plugs)
•จัดโซนเสียงดังให้เป็นพื้นที่จำกัด (Restricted Noise Zone)
•สลับเวรการทำงานเพื่อลดระยะเวลาสัมผัสเสียงดัง
✅ 4. ใช้เทคโนโลยีลดเสียง
•ติดตั้ง Active Noise Control (ANC) สำหรับบางพื้นที่ที่ต้องการลดเสียงเฉพาะ
•ใช้ ซอฟต์แวร์ตรวจวัดเสียง เพื่อตรวจสอบแนวโน้มเสียงรบกวน
5. การตรวจวัดเสียงและติดตามผล
✅ ใช้ เครื่องวัดระดับเสียง (Sound Level Meter – SLM) เพื่อตรวจสอบว่าเสียงในโรงงานอยู่ในระดับที่ปลอดภัย
✅ ทำ การตรวจสุขภาพพนักงานประจำปี เพื่อตรวจสอบความเสี่ยงต่อการสูญเสียการได้ยิน
✅ วางแผน การปรับปรุงสถานที่ทำงาน อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน
🎯 สรุป
🔹 โรงงานอุตสาหกรรมที่มีเสียงดังเกิน 85 dB(A) ต้องมีมาตรการควบคุมเสียงเพื่อความปลอดภัยของพนักงาน
🔹 ปัญหาเสียงดังส่งผลต่อสุขภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการทำงาน
🔹 วิธีแก้ไขที่ได้ผล ต้องใช้ทั้งการควบคุมที่แหล่งกำเนิดเสียง ทางเดินเสียง และผู้รับเสียง
🔹 การตรวจวัดเสียงและการบำรุงรักษาเครื่องจักรเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาเสียงในระยะยาว
📌 ต้องการติดตั้งระบบกันเสียงในโรงงาน? ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอะคูสติกเพื่อแก้ปัญหาเสียงรบกวนอย่างมีประสิทธิภาพ