⚙️ ISO 9001:2015 Certified ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการและ ควบคุมมลพิษทางเสียง
⚙️ ISO 9001:2015 Certified ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการและ ควบคุมมลพิษทางเสียง

ความแตกต่างระหว่าง เสียงในอากาศ (Airborne Noise) กับ เสียงกระทบ (Impact Noise)

ความแตกต่างระหว่าง เสียงในอากาศ Airborne Noise กับ เสียงกระทบ Impact Noise noisecontrolpro
โดยเฉพาะเสียงในอากาศและเสียงกระทบ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความไม่สบายในการอยู่อาศัย บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างของเสียงทั้งสองประเภท วิธีการวัด และแนวทางการป้องกันตามมาตรฐานทางกฎหมาย เพื่อช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถออกแบบหรือปรับปรุงพื้นที่ให้เงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น

1. เสียงในอากาศ (Airborne Noise) คืออะไร?

เสียงในอากาศ คือเสียงที่เกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงที่กระจายผ่าน “อากาศ” ก่อนจะมากระทบโครงสร้างของอาคาร เช่น ผนัง หรือพื้น ตัวอย่างเช่น:

•เสียงพูดคุย

•เสียงโทรทัศน์

•เสียงดนตรี

•เสียงสุนัขเห่า

เมื่อเสียงเหล่านี้เดินทางผ่านอากาศและชนกับผนังหรือเพดาน มันจะทำให้พื้นผิวเหล่านั้นสั่น แล้วเกิดการส่งต่อเสียงไปยังอีกด้านหนึ่งของผนังหรือพื้น

 วิธีการวัดเสียงในอากาศ:

ใช้ค่าที่เรียกว่า DnT,w + Ctr หน่วยเป็นเดซิเบล (dB)

ค่ายิ่งสูง → หมายถึงความสามารถในการกันเสียงได้ดีขึ้น (เสียงลอดผ่านน้อยลง)


2. เสียงกระทบ (Impact Noise) คืออะไร?

เสียงกระทบ คือเสียงที่เกิดจากแรงกระแทกหรือแรงกดโดยตรงต่อโครงสร้างของอาคาร โดยไม่ได้ผ่านอากาศ เช่น:

•เสียงฝีเท้าเดินหรือวิ่ง

•เสียงเฟอร์นิเจอร์ลาก

•วัตถุตกกระแทกพื้น

เสียงกระทบจะทำให้โครงสร้าง (เช่น พื้น) สั่นสะเทือน และส่งเสียงต่อไปยังห้องด้านล่างหรือผนังที่ต่ออยู่

วิธีการวัดเสียงกระทบ:

ใช้ค่าที่เรียกว่า L’nT,w หน่วยเป็นเดซิเบล (dB)

ค่ายิ่งต่ำ → หมายถึงความสามารถในการกันเสียงกระทบได้ดี (เสียงกระทบส่งผ่านน้อยลง)


มาตรฐานตามกฎระเบียบ Part E (ของอังกฤษ)

ในประเทศไทย ยังไม่มีข้อกำหนดที่ครอบคลุมเรื่องการควบคุมเสียงในอาคารที่เป็นมาตรฐานบังคับเหมือนกับ Part E ของอังกฤษ แต่ก็มีมาตรฐานบางอย่างที่ใช้ อ้างอิง หรือ แนะนำ สำหรับงานออกแบบอาคาร โดยเฉพาะในอาคารที่มีความต้องการด้านอะคูสติก เช่น โรงแรม โรงพยาบาล หรือห้องประชุม ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้ในเบื้องต้นดังนี้:

เกณฑ์จากอังกฤษ (Part E, Building Regulations)

ประเภทเสียง

อาคารใหม่ (New Builds)

อาคารดัดแปลง (Conversions)

หน่วย

เสียงในอากาศ (Airborne Noise)

≥ 45 dB (DnT,w + Ctr)

≥ 43 dB (DnT,w + Ctr)

เดซิเบล

เสียงกระทบ (Impact Noise)

≤ 62 dB (L’nT,w)

≤ 64 dB (L’nT,w)

เดซิเบล

แนวทางในประเทศไทย (มาตรฐานอ้างอิง)

แม้ไม่มีเกณฑ์ บังคับตามกฎหมาย สำหรับอาคารพักอาศัยทั่วไป แต่ประเทศไทยมีการใช้อ้างอิงมาตรฐานจาก:

มาตรฐานสากล ISO / ASTM (เช่น ISO 140, ISO 717)

มาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมเสียงและอะคูสติกไทย (TASA) หรือแนวทางจากผู้เชี่ยวชาญ

• คำแนะนำจากสถาบันเช่น วสท. (วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย)

ค่าที่แนะนำสำหรับ “เสียงในอากาศ” (Airborne Sound Insulation) ในไทย:

ประเภทห้อง

ค่าแนะนำ (Rw หรือ STC)

หน่วย

ห้องพักอาศัยทั่วไป

≥ 50 dB

เดซิเบล

ห้องโรงแรม / ห้องประชุม

≥ 55 dB

เดซิเบล

หมายเหตุ: ค่าที่ใช้ในไทยมักจะเป็น STC (Sound Transmission Class) หรือ Rw ซึ่งวัดในสภาวะ “ห้องทดสอบ” ต่างจาก DnT,w ที่ใช้ใน Part E ซึ่งวัดใน “สภาพใช้งานจริง” รวมผลกระทบจากเวลาเสียงสะท้อน (reverberation time)

ค่าที่แนะนำสำหรับ “เสียงกระทบ” (Impact Sound):

ยังไม่มีค่ามาตรฐานแน่นอนในไทย แต่สำหรับโรงแรมและอาคารหรูมักใช้ค่าจากต่างประเทศ เช่น:

• ค่าที่แนะนำ: ≤ 58-62 dB (L’nT,w)

สรุปเทียบ Part E กับประเทศไทย:

ประเด็น

อังกฤษ (Part E)

ไทย (โดยทั่วไป)

มีข้อกำหนดตามกฎหมาย

✅ บังคับใช้

❌ ยังไม่มี

มาตรฐานเสียงในอากาศ

DnT,w + Ctr ≥ 43–45 dB

Rw หรือ STC ≥ 50–55 dB

มาตรฐานเสียงกระทบ

L’nT,w ≤ 62–64 dB

ใช้มาตรฐานอ้างอิง ISO ≤ 58–62 dB

ใช้สำหรับอาคารใดบ้าง

ทุกอาคารพักอาศัย

เฉพาะอาคารเฉพาะทาง (เช่น โรงแรม/ห้องบันทึกเสียง)

 


ทำไมต้องแยกเสียง 2 ประเภทนี้?

เพราะการควบคุมเสียงทั้งสองประเภทต้องใช้ เทคนิคการกันเสียงที่แตกต่างกัน คือ:

•เสียงในอากาศ ต้องใช้ผนังหรือวัสดุที่หนาแน่นและซีลแน่นหนา เช่น ผนังเบาแบบสองชั้น หรือฉนวนอะคูสติก

•เสียงกระทบ ต้องเน้นการแยกชั้นหรือใช้วัสดุกันสะเทือน เช่น พรม, โฟมกันกระแทก, ระบบพื้นลอย (floating floor)

 

สรุป

ทั้งสองประเภทเสียงนี้ต้องการการป้องกันที่แตกต่างกัน เช่น ใช้ฉนวนกันเสียง, ระบบพื้นลอย, หรือผนังสองชั้น เพื่อให้สภาพแวดล้อมในอาคารสงบและน่าอยู่มากขึ้น

NTi เพราะเราเข้าใจ เสียงรบกวน ยินดีให้บริการ

ติดตั้ง แผ่นกันเสียง , ฉนวนกันเสียง , ผนังกันเสียง

บริการออกแบบ
และติดตั้งระบบกันเสียง

ติดตั้งในบ้าน สำนักงาน สตูดิโอ ห้องประชุม คอนโด ฯลฯ

ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ
ปัญหาเสียงรบกวน

เลือกแผ่นกันเสียงที่เหมาะสมกับพื้นที่ ประเมินหน้างาน

วิเคราะห์เสียงและแก้ไข
ปัญหาเสียงรบกวน

ตรวจสอบและวิเคราะห์ระดับเสียงในพื้นที่ และมาตรการป้องกันเสียงรบกวน

บริการสั่งทำพิเศษเฉพาะ​
แผ่นกันเสียง

ผลิตแผ่นกันเสียงตามขนาดให้เหมาะกับอุตสาหกรรมเฉพาะทาง

บริการหลังการขาย
ซ่อมบำรุงแผ่นกันเสียง

การรับประกันสินค้าและการเคลมสินค้า บำรุงรักษาหรือซ่อมแซมผนังกันเสียง

ติดต่อเรา